ความสำเร็จมักจะเกิดแก่บุคคลที่มองโลกในแง่ดีและเต็มใจที่จะท้าทายความสามารถของตนเอง
คนบางคนไม่กล้าสู้เมื่อโอกาสมาเยือน พวกเขาคือคนที่ไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตราบใดที่มันไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเขา ในทางตรงกันข้ามมีคนอื่นๆ ที่เมื่อมองเห็นโอกาสเดียวกันนี้ก็จะเอื้อมมือคว้าไว้ทันที โดยไม่สนใจว่าจะเป็นสิ่งที่เคยทำมาก่อนหรือไม่ ไม่สนใจว่าคนอื่นๆ จะมาทำให้เขาทดท้อหรือไม่ พวกเขาเข้าใจดีในสิ่งที่ มาร์ค ทเวน เขียนไว้ว่า “คนที่มีความคิดใหม่ๆ คือคนที่ไม่เต็มเต็ง จนกว่าความคิดนั้นจะบรรลุผลสำเร็จขึ้นมา”
แล้วคุณเป็นประเภทไหนเล่า ความสำเร็จมักจะเกิดแก่คนที่มองอะไรในแง่ดีและเต็มใจที่จะท้าทายความสามารถของตนเอง
ลองนึกถึงนักวิ่งทางไกลที่ชื่อ เกลนน์ คันนิ่งแฮม หลังจากที่เขาถูกไฟลวกอย่างสาหัสในวัยเด็ก เขาก็ได้รับคำบอกเล่าว่าตัวเองจะเดินไม่ได้อีกต่อไป แต่ด้วยความไม่ท้อถอย เขาได้เอาชนะความพิการโดยการฝึกเดินแล้วก็เปลี่ยนเป็นวิ่ง จากนั้นก็ถือเป็นกิจวัตรที่จะต้องวิ่งเป็นไมล์ๆ ทุกวัน ในปี พ.ศ. 2477 เขาได้สร้างสถิติโลกในการวิ่งระยะไกล เมื่อถูกถามว่าเขาทำได้อย่างไร เขาตอบว่า “ผมไม่ได้มองตัวเองว่าพิเศษแตกต่างจากคนอื่น บางทีอาจเป็นเพราะความไม่รู้คือสมบัติอันล้ำค่าของผมก็ได้ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้”
การประกอบธุรกิจก็เช่นเดียวกับการดำเนินชีวิต ย่อมเป็นการฉลาดที่จะไม่คิดไว้ล่วงหน้าว่าตัวคุณทำอะไรได้หรือทำอะไรไม่ได้ เพียงแต่เปิดใจให้กว้าง ยืดแขนขาออก และทดสอบความกล้าหาญของตัวเอง คุณก็จะพบศักยภาพอันพิเศษแตกต่างเฉพาะตนที่ซ่อนอยู่ภายในตัวตนของคุณเอง